Katper

วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

บ้านน้ำตกของแฟรงค์ ลอยไรท์

ใครที่ชื่นชอบบ้านแบบธรรมชาติ ไม่ควรพลาดชมบ้านน้ำตกหลังนี้ เป็นบ้านที่สร้างมานานแล้ว โดยสถาปนิกเอกชาวอเมริกัน คือนาย Frank Lloyd Wright และสถาปนิกทุกคนก็จะรู้จักกับบ้านหลังนี้ดี เพราะเป็นแบบอย่างการออกแบบมาตั้งแต่ตอนเรียนหนังสือ แนวการออกแบบแนว contemporary นี้ เราจะเห็นได้ว่ามันเป็นแบบที่ร่วมสมัยจริงๆ แม้ว่าเวลาผ่านเลยมากว่า 73 ปีแล้ว (บ้านนี้สร้างเสร็จเมื่อปี 1935) ก็ไม่รู้สึกว่าบ้านหลังนี้เก่า หรือเชยแต่ประการใด แต่บ้านที่สร้างกันแนวอื่นๆที่ไม่ร่วมสมัยนี่ ผ่านมาไม่เกิน 20 ปี ก็ดูเชยเสียแล้ว ปัจจุบันบ้านหลังนี้ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปเสียแล้วเพราะทายาทของ Kaufmann ได้ยกบ้านหลังนี้ให้กับ Western Pennsylvania Conservancy ไปตั้งแต่ปี 1964 แล้ว จึงได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ ให้คนทั่วไปได้เข้าชม แต่เขาก็อนุรักษ์ตัวบ้านไว้ทุกอย่างที่ Frank Lloyd Wright ได้ออกแบบไว้ ไม่ได้ปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงไปแต่ประการใด เพียงแต่ต้องคอยซ่อมแซมให้คงสภาพดีไว้ดังเดิม เพราะจนถึงปัจจุบันมีผู้เข้าเยี่ยมชมบ้านหลังนี้เกือบ 5 ล้านคนเข้าไปแล้ว


 









บ้านประหยัดพลังงาน

จากการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ในหลายๆ ประเทศวิเคราะห์กันว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ที่เผาผลาญน้ำมัน ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (greenhouse gases) ออกสู่บรรยากาศเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก๊าซเหล่านี้เป็นตัวการสำคัญที่กักเก็บความร้อนจากแสงอาทิตย์ไม่ให้คายออกไปสู่บรรยากาศ ส่งผลให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น

ดังนั้นการช่วยกันรณรงค์อย่างเป็นรูปธรรม เริ่มได้จากตัวของคุณเอง ว่ากันว่าบ้านยุคใหม่นอกจากจะเน้นความสวยงามพื้นที่ใช้สอยแล้ว ผู้บริโภคยังหันมาใส่ใจถึงการประหยัดพลังงานตั้งแต่เริ่มออกแบบกันเลยทีเดียว บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการบ้านจัดสรรภายใต้แบรนด์ "ชวนชื่น" และ "สิรีนเฮ้าส์" ได้รวบรวมเคล็ดลับดีๆ ที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการช่วยลดภาวะโลกร้อนจากบ้านของคุณมาฝาก

"พรชัย วงศ์วรรณะดิลก" ผู้จัดการฝ่ายออกแบบ บมจ.มั่นคงเคหะการ บอกว่า บ้านจะสามารถประหยัดพลังงานได้มากน้อยเพียงใดนั้นอยู่ที่การออกแบบ โดยปัจจัยที่ต้องพิจารณาเริ่มตั้งแต่ การวาง lay out หรือวางแปลนบ้าน ซึ่งจะต้องคำนึงถึงทิศทางของแดด, ลม และฝน ที่ปัจจุบันมีข้อจำกัดค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็น ข้อจำกัดของขนาดที่ดิน, ระยะห่างจากบ้านข้างเคียงซึ่งควบคุมได้ยาก

ที่สามารถทำได้คือการให้ความสำคัญกับการระบายอากาศภายใน การให้แสงสว่างเข้าถึงพื้นที่ใช้สอยในตำแหน่งและปริมาณที่เหมาะสม เช่น โถงบันได, ทางเดิน, ห้องน้ำ เพื่อลดการใช้ไฟฟ้าในเวลากลางวันลง

นอกจากนี้การสร้างมุมพักผ่อนรอบๆ บ้าน ไม่ว่าจะเป็นเฉลียง, ระเบียงบ้าน หรือศาลาพักผ่อนภายในสวน ในตำแหน่งที่เหมาะสมและสัมพันธ์กับขนาดที่ดิน สามารถต่อเชื่อมกับพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน เช่น ห้องพักผ่อน, ห้องทานอาหาร, ห้องนอน ฯลฯ ก็จะช่วยสร้างบรรยากาศของการพักผ่อนในลักษณะ open air ทำให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติรอบข้าง เช่น สวน, บ่อน้ำ

ซึ่งนอกจากจะเสริมองค์ประกอบในบ้านให้ครบถ้วนแล้ว การเกิดร่มเงาจากพันธุ์ไม้รอบบ้านก็จะช่วยป้องกันไม่ให้แสงแดดกระทบผนังบ้านโดยตรง ลดการสะสมของความร้อนได้

สำหรับแนวคิดในการออกแบบบ้านประหยัดพลังงานของบริษัท นอกจากประโยชน์ใช้สอยและความสวยงามแล้ว ยังเน้นถึงปัจจัยต่างๆ ที่ช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงาน โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ดังนี้

- การเพิ่มฉนวนกันความร้อนให้กับหลังคา เลือกใช้กระเบื้องหลังคาที่มีผิวมันและมีสีอ่อน ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการสะท้อนความร้อนได้ดี

- ชายคา มีระแนงระบายอากาศ ช่วยในการถ่ายเทความร้อนให้กับบ้านได้

- เพิ่มและวางตำแหน่งของช่องหน้าต่าง, ช่องแสง, ช่องระบายอากาศ ในตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด พยายามให้มีการระบายอากาศที่ดี มีทิศทาง ลมเข้าและออก

- การเลือกใช้โทนสีทั้งภายในและภายนอก ที่เน้นสีอ่อนและสว่าง ทั้งสีทาผนัง, wallpaper

- กระเบื้องปูพื้น-บุผนัง แม้จะเลือกใช้วัสดุธรรมดา เช่น ผนังก่ออิฐ หรือผนังไม้ฝาสำเร็จรูป แต่การออกแบบให้มีชายคายื่นยาวปกคลุม มีเฉลียง ระเบียง กันสาดยื่นกันแดด ก็ช่วยไม่ให้ผนังถูกแสงแดดกระทบโดยตรง

นอกจากนั้นการหาวัสดุทดแทนไม้จริง เช่น ประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียม, พื้นลามิเนต รวม ทั้งการเลือกสุขภัณฑ์รุ่นประหยัดพลังงาน ก็ล้วนช่วยลดการตัดไม้ทำลายป่า และลดการใช้พลังงานได้อีกทาง




ที่มา:http://www.banidea.com/modern-eco-home-design/modern-exterior-eco-home-1/

บ้านหมุนได้360องศา

ฮวงจุ้ยบ้าน ที่เราสามารถแก้ไขได้เอง มาดูวิธีปรับฮวงจุ้ยบ้าน แบบง่ายๆ ที่สามารถทำได้เอง

ปัญหาที่หลายๆ คนมักจะประสบกันอยู่เสมอ เวลามีคนมาทักว่า บ้านของตัวเองผิด ฮวงจุ้ย ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี จะแก้ไขฮวงจุ้ยที่ผิดก็ไม่รู้วิธี แถมคนที่ทักว่าไม่ดีผิดฮวงจุ้ย ก็ไม่รู้วิธีแก้อีก ก็ยิ่งทำให้เจ้าของบ้านเกิดความกังวล กลัวจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นภายในบ้าน

      ส่วนใหญ่เจ้าของบ้าน จะใช้วิธีวิ่งหาซินแสฮวงจุ้ย มาช่วยแก้ให้ ซึ่งทำให้เสียเงินเสียทองค่อนข้างจะมาก ทั้งๆ ที่บางทีเป็นเรื่องง่ายๆ ที่สามารถทำได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งซินแสเลย โดยจะยกกรณีที่มักจะพบเจอกันอยู่บ่อยๆ และไม่ยุ่งยากในการแก้ไขมากนัก เพราะเรื่องของการแก้ไขฮวงจุ้ยที่ไม่ดีนั้น มีมากมายหลายวิธีด้วยกัน

      ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจถึงวิธีการแก้ฮวงจุ้ยว่า มีวิธีอะไรกันบ้าง หลักการแก้ ฮวงจุ้ย เท่าที่ผมสรุปออกมาได้ก็จะมีอยู่ 5 วิธีคือ 1. หลบหลีก 2. หักเห 3. ปรับเป็นพวกเดียวกัน 4. สลายออก และ 5. ต่อสู้ป้องกัน การจะนำวิธีไหนมาใช้นั้น จะขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของบ้านหลังนั้นเป็นหลัก


...ประตูบ้าน...

      ประตูหน้าบ้านตรงกับประตูหลังบ้าน กรณีนี้จะเจอกันอยู่บ่อยๆ ในทาง ฮวงจุ้ย จะบอกว่า ทำให้เงินไหลออก เรียกว่า หาเงินมาเท่าไหร่ก็ไหลออกหลังบ้านหมด การแก้ไขกรณีนี้ ไม่ยากเลยครับ วิธีที่นิยมใช้กันมากก็คือ หาฉากหรือตู้โชว์มากั้นระหว่างประตูหน้ากับประตูหลังบ้าน กระแสที่พุ่งตรงระหว่างสองประตู ก็จะถูกหักเหออกไปอีกวิธีหนึ่ง ย้ายประตูหลังหลบประตูหน้า โดยย้ายไปเปิดด้านข้างแทน อย่าลืมว่า บ้านจะต้องมีประตูหลังเสมอ นี่เป็นกฎพื้นฐานในทางฮวงจุ้ย บางคนแก้ไขประตูตรงกัน โดยการปิดประตูหลังเสีย หลังบ้านจึงทึบไม่มีทางออก ตำราบอกว่า จะส่งผลให้บ้านหลังนั้น อุดตัน อับโชค

      ซึ่งถ้ามองตามหลักเหตุผล ก็จะหมายถึง บ้านจะอับลม เพราะธรรมชาติของลมจะต้องมีทางเข้าและทางออก อากาศถึงจะถ่ายเทได้ดี การแก้ไขอะไรก็แล้วแต่ จะต้องดูที่ผลกระทบข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย ไม่ใช่แก้อย่างหนึ่งแล้วไปเสียอีกอย่างหนึ่ง อย่างนี้ก็ต้องตามแก้กันไม่รู้จบ


...ห้องครัว...

      กรณีที่พบบ่อยจะเป็นเรื่องตำแหน่งเตาไฟ กับซิงก์น้ำ ตามหลักฮวงจุ้ยจะบอกเอาไว้ว่า สองสิ่งนี้ห้ามอยู่ใกล้กัน หรือตรงข้ามกัน เพราะเตาเป็นธาตุไฟ ซิงก์เป็นธาตุน้ำ ไฟกับน้ำ เป็นธาตุปะทะกัน ส่วนใหญ่การวางเตาไฟกับซิงก์จะวางแยกกันในลักษณะตัวแอล เตาอยู่ด้านหนึ่ง ซิงก์อยู่ด้านหนึ่ง

      กรณีที่เตากับซิงก์น้ำอยู่ติดกัน ให้พิจารณาก่อนว่า ระยะห่างมีมากน้อยแค่ไหน ถ้าห่างเกิน 1 เมตร ถือว่าไม่จำเป็นต้องแก้ เพราะผลกระทบจะไม่เกิด แต่ถ้าอยู่ติดกัน วิธีแก้ที่ดีที่สุดคือ ย้ายอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา แต่ถ้าทำไม่ได้ ให้หาฉากสแตนเลสกันความร้อนมากั้นตรงกลาง ก็ถือว่าใช้ได้

      ส่วนกรณีที่เตาไฟกับซิงก์น้ำอยู่ตรงข้ามกัน ถ้าห้องครัวมีพื้นที่กว้างพอ ให้ใช้โต๊ะมาวางขั้นกลาง แต่ถ้าห้องครัวแคบ ต้องย้ายอย่างใดอย่างหนึ่งออกไป


...ห้องส้วม...

      ลักษณะผิด ฮวงจุ้ย ที่พบบ่อยก็คือ โถส้วม (ชักโครก) มักจะวางตรงกับประตูห้องส้วม พูดง่ายๆเวลาเปิดประตูก็เห็นชักโครกพุ่งเข้าหาคนที่เดินเข้า อย่างนี้ถือว่าผิดแน่นอน วิธีแก้ไข ย้ายโถส้วมเข้าด้านใน ซึ่งเป็นวิธีที่ทำได้ค่อนข้างจะยาก เพราะจะต้องย้ายท่อน้ำเสียตามไปด้วย

      อีกวิธีหนึ่ง ให้หันโถส้วมไปในทิศทางที่ไม่ตรงกับประตู แทนที่จะพุ่งตรงออกมา ก็หันไปด้านข้างแทน โดยที่ไม่ต้องย้ายตำแหน่ง หรือ ถ้าไม่อยากย้ายโถส้วมก็อาจจะเลือกแก้โดยการเปลี่ยนตำแหน่งของประตูแทนก็ได้ ถ้าไม่อยากย้ายอะไรเลย ก็ให้ปิดประตูห้องส้วมไว้เสมอ พยายามเปิดประตูเข้าออกให้น้อยที่สุด ก็จะช่วยลดผลกระทบลงได้


...ห้องนอน...

      ห้องนอนถือเป็นห้องสำคัญที่สุดในบ้าน มีข้อบัญญัติมากมายเกี่ยวกับห้องนอน แต่ที่พบเจอบ่อยๆก็จะเป็นเรื่องการวางเตียง ตำแหน่งต้องห้ามในทางฮวงจุ้ยคือ ห้ามวางเตียงตรงกับประตู หรือนอนขวางประตูห้อง นั่นเอง

      การแก้ไขที่ดีที่สุดคือ ย้ายเตียงหลบ หรือไม่ก็ย้ายประตูห้อง การย้ายเตียงหลบน่าจะดีกว่า ถ้าย้ายไม่ได้ก็ต้องหาฉากมากั้นระหว่างประตูกับเตียง

      หัวเตียงเป็นหน้าต่าง หลายคนกังวลกับเรื่องนี้มาก ตำราฮวงจุ้ยพูดเอาไว้จริง แต่การแก้ไขง่ายนิดเดียว แค่ติดม่านแล้วปิดเวลานอน ปัญหาก็หมดไป

 ที่มา:http://fengshui.horoworld.com/6457_%E0%B8%AE%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%AE%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87

เลือกของที่เป็นมงคลเสริมให้บ้านน่าอยู่

การเลือกอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน นอกจากเพื่อความสวยงามและประโยชน์ใช้สอยภายในบ้านแล้ว บางประเภทก็เลือกเพราะที่มาที่ไปมีความหมายดีเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อยู่อาศัยก็แล้วแต่ความเชื่อที่แตกต่างกันไป เช่น

ภาพทะเลหรือแม่น้ำ ถือว่าเป็นภาพที่มีลักษณะของการบันดาลโชคลาภมาสู่บ้านได้ดี แต่ต้องเป็นภาพที่มีลักษณะของท้องทะเลหรือแม่น้ำที่ไหลเข้าสู่ตัวบ้านนะครับ จึงจะถือว่าเป็นสิริมงคล เพราะถ้าเป็นภาพที่มีลักษณะไหลออกจากตัวบ้านจะถือว่าเงินทองไหลออกนอกบ้านครับ

ภาพดวงอาทิตย์ และ ดวงจันทร์ ภาพที่มีดวงอาทิตย์ประกอบอยู่ด้วย เป็นภาพแห่งความเป็นสิริมงคลบันดาลให้เกิดความสุข ชีวิตเต็มไปด้วยพลังแห่งความหวัง ความกระตือรือร้นและหากเป็นภาพที่มีดวงจันทร์ประกอบอยู่ จะบันดาลความร่มเย็นนอกจากนี้ยังนำโชคในเรื่องความรักมาสู่ท่านด้วยครับ

นำอ่างน้ำพุมาแต่งบ้าน เป็นการสะท้อนลักษณะความร่ำรวยของเจ้าของบ้าน แต่ในการวางอ่างน้ำพุนั้นต้องไม่วางใกล้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ในบ้านเพราะพลังงานของน้ำและไฟจะก่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้นภายในบ้านครับ

แต่งบ้านด้วยเรือ เป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่นคงและการเดินทาง ถือว่าเป็นของที่ดีมาก ซึ่งจะบันดาลให้คุณมีโอกาสไปต่างประเทศ มีเงินทองมั่งคั่งสมบูรณ์พูนสุข เหมาะสำหรับผู้ที่ทำธุรกิจทุกประเภท แต่ห้ามหันหัวเรือออกนอกบ้านนะครับ

แต่งบ้านด้วยม้า ต้องเป็นม้าที่มีลักษณะแข็งแรง สมบูรณ์และไม่ดุร้าย วางในห้องรับแขกหรือโต๊ะทำงาน จะส่งผลให้มีอำนาจความสำเร็จและมีโอกาสได้เดินทางไปต่างประเทศ แต่ห้ามหันหัวม้าออกนอกห้องหรือหน้าต่างและไม่ควรวางม้าไว้ในห้องนอนเพราะจะทำให้สุขภาพไม่ดี เกิดความระหองระแหงกันระหว่างสามี ภรรยา ม้าขาวนำโชคทางการเงิน ม้าน้ำนำมาซึ่งชัยชนะ ส่วนม้าดำไม่เหมาะที่จะนำมาแต่งบ้านเลยแม้จะมีลักษณะดีก็ตาม

แต่งบ้านด้วยธงชาติ ช่วยเสริมมงคลความสำเร็จในหน้าที่การงาน ควรจัดไว้ในห้องทำงานหรือห้องรับแขก เชื่อกันว่าเป็นเครื่องหมายของโชคอันยิ่งใหญ่ บันดาลให้เจ้าของบ้านมียศศักดิ์สูง มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่ชื่นชอบยกย่องของคนทั่วไปครับ

คนรักบ้านก็เลือกซื้อเลือกหากันมาแต่งตามความชอบแล้วกันน่ะครับ ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงเรื่องของความเชื่อถือก็ให้ถือเสียว่าเป็นวิธีคิดที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการจัดตกแต่งอาคารบ้านเรือน เรื่องของกาลเทศะก็ไม่ควรมองข้าม เอาเป็นว่าถูกต้องตามความเหมาะสมตามหลักเคหะศาสตร์ของการอยู่เย็นเป็นสุขและมีความหมายดีสำหรับบ้านก็แล้วกันครับ








ดูแลอย่างดี

                    บ้านไม่ว่าจะมีการตกแต่งที่แพงแสนแพงแค่ไหน จะน่าอยู่ได้ก็ต่อเมื่อมีการดูแล และบำรุงรักษาอย่างดีเท่านั้น การดูแลบ้านให้อยู่ในสภาพดี เป็นหัวใจหลัก สำคัญที่จะทำให้บ้านน่าอยู่หากปราศจากการดูแลอย่างดีแล้วบ้านก็คงไม่ต่างอะไร ไปจากห้องเก็บของเท่านั้น โดยทั่วไป การดูแลอย่างดี นั้นจำเป็นต้อง คำนึงถึงพื้นฐานของความน่าอยู่ 5 ประการดังต่อไปนี้
                    1. สะอาดและเป็นระเบียบ บ้านที่น่าอยู่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดูสะอาดและเป็น ระเบียบอยู่เสมอ บ้านที่รกรุงรัง คงเป็นบ้านที่น่าอยู่ไปไม่ได้ นอกจากนี้ วัสดุและ อุปกรณ์ต่างๆ เช่น หัวก็อก อ่างล้างจาน โถสุขภัณฑ์ ผ้าม่านและผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ควรมีการซักล้าง ปัดกวาด เช็ดถู หรือขัดลงเงาให้ดูใหม่เอี่ยมอยู่เสมอ ซึ่งการดูแลรักษาของเหล่านี้ทำได้ไม่ยาก โดยเราจะแนะนำใน โอกาสต่อไป
                    2. สดชื่น หากบ้านของใครที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี มีลมพัดผ่านและถ่ายเทตลอดทั้งวัน รวมทั้งตั้งอยู่ในสวนที่ร่มรื่น และมีกลิ่นหอมของดอกไม้ในธรรมชาติอบอวล ตลอดทั้งวันคงเป็นบ้านที่น่าอยู่ อย่างยิ่ง คนเราทุกคนย่อมใฝ่ฝันที่จะมีบ้านที่ดี แบบนี้อยู่เกือบทุกคน แต่หากไม่สามารถทำได้ การใช้ เครื่องหอมอ่อนๆ เช่น บุหงา หรือธูปหอม จะช่วยได้มากเลยทีเดียว


                    3. เย็นสบาย ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้บ้านน่าอยู่ และแขกที่มาเยี่ยมเยือนติดใจ คือบรรยากาศที่เย็นสบาย อาจจะเป็นเพราะลมธรรมชาติ หรือเครื่องปรับอากาศ หรือพัดลมก็ได้





เคล็ดลับในการทำบ้านให้น่าอยู่

การตกแต่งอย่างดี คือ การที่

                    1. สวยตามรสนิยมของคุณ ถ้าชอบแบบไหนก็ทำแบบนั้น เช่น บางคนชอบบ้านที่ให้บรรยากาศที่ พักผ่อน ดูสบาย อบอุ่น หรือบางคน ชอบบ้านที่สวย ทันสมัย มีสีสรร เป็นต้น คุณไม่จำเป็นต้องทำตาม สมัยนิยม โดยที่คุณไม่ชอบบ้านของคุณเป็นที่ที่คุณ และครอบครัวใช้เวลาอยู่กับมัน มากที่สุดไม่ใช่ นักออกแบบตกแต่งภายในของคุณ หรือผู้รับเหมา หรือแม้กระทั่งแขกที่มาเยี่ยมบ้านก็ตาม


                    2. มีประโยชน์ใช้สอยที่ครบถ้วน โดยบ้านที่ดีควร มีส่วนต่างๆ ครบคือส่วนรับแขก หรือนั่งเล่นส่วนทานอาหาร ครัว ห้องนอน ห้องน้ำ และห้องเก็บของ เป็นต้นหากใครจะมีห้องมากกว่านี้ เช่นมีห้อง Mini- Theatre เพื่อเอาไว้ ดูหนังฟังเพลง หรือห้อง Karaoke สำหรับให้ญาติสนิทมารวมกันร้องเพลง ตลอดจนห้อง Fitnessเพื่อออกกำลังกายด้วยก็ได้

                    3. มีพื้นที่ใช้สอยเหมาะสมตามการใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งความต้องการ ในข้อนี้ มักจะแตกต่างกันออกไป เช่น หากคุณใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในครัว เพลิดเพลินกับการทำอาหาร และขนมชนิดต่างๆ คุณควรจะมีครัวที่ใหญ่ มีอุปกรณ์ครบถ้วน และสวยงาม แต่หากคุณใช้เวลาส่วนใหญ่นั่งเล่น ในห้องรับแขก คุณก็ควรจะมีห้องรับแขกที่น่าอยู่ นั่งสบาย และลูกค้าบางราย อาจจะชอบแต่งตัวและ ใช้เวลาแต่งตัวนานเป็นพิเศษ ก็ควรจะสร้างห้องแต่งตัว ที่ไม่อึดอัด และมีที่นั่งแต่งตัวให้สบาย เป็นต้น และสุดท้าย คำว่า “ตกแต่งอย่างดี” ก็ต้องเหมาะสมกับงบประมาณของเจ้าของบ้านด้วยไม่ใช่ว่า ตกแต่งบ้านทีเดียว ต้องจนไปอีกนานงานตกแต่งภายในนั้นไม่จำเป็นว่าต้องใช้ของแพงเสมอไป เราสามารถใช้ของที่มีราคาถูกกว่า แต่เมื่อนำมาจับคู่สีกัน หรือวางรวมกัน ก็อาจจะ ดูดีกว่าของที่แพงกว่าได้โดยไม่ยากนัก ดังนั้น บ้านที่เสียค่าใช้จ่ายในการตกแต่ง มากกว่าก็ไม่จำเป็นต้องดูดีกว่าหรือน่าอยู่กว่าบ้านที่ เสียค่าใช้จ่ายในการตกแต่ง น้อยกว่า เสมอไป